#10 – NIKE AIR 1/2 CENT
จาก รองเท้าบาสเก็ตบอลที่ไนกี้ Retro ออกมาในปี 2009 รองเท้าของ Penny hardaway เป็นสายการผลิตที่ถูกทำออกมาหลายรุ่นที่สุด Nike Air 50 Cents เป็น Hybrid จาก Penny Line หลายๆ คู่มารวมกันได้อย่างลงตัว และถูกขึ้นหิ้งไว้ในระดับเดียวกันกับ Air Jordan Spiz’ike แล้ว
#9 – NIKE SB ZOOM STEFAN JANOSKI
รองเท้า คู่แรกของโปรสเก็ตชื่อดัง Stefen Janoski ที่ออกกับทาง Nike SB โดยรวมแล้วถือเป็นรองเท้าสเก็ตบอร์ดทรงใหม่ ที่ยังไม่ค่อยมีใครทำมาก่อน สามารถสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการได้อย่างน่าสนใจเลย อีกทั้งยังมีตัวเลือกมากมายหลายคู่สีจึงทำให้รองเท้าคู่นี้ติดโผมาในอันดับ 9 อย่างน่าสนใจ
#8 – NIKE DUNK HIGH – SB GUCCI / DJ CLARK KENT GUCCI
Nike SB ที่รอคอยมานาน หลังจากที่ออกตัว Sample ออกมาเมื่อหลายปีก่อนจนเป็นที่ฮือฮากับคู่สีของแบรนด์ไฮเอนด์ชื่อดัง Gucci รองเท้าคู่นี้จึงเป็นที่ต้องการอย่างมากของทุกๆคน แต่ในปี 2009 มันกลับมาวางขายให้ทุกคนได้จับจองกันในราคาย่อมเยาว์มากๆ เมื่อเทียบกับราคาของตัว Sample ที่ขายกันอยู่ในตลาด วัสดุที่ใช้แทบจะไม่แตกต่างจากคู่ Sample เลย และด้วยความที่เป็นคู่สีสุดคลาสสิคทำไมรองเท้าคู่นี้จะไม่สามารถเข้ามาอยู่ ในอันดับ 8 ได้หละ
#7 – NIKE AIR MAX 2009
Nike Air Max 2009 ออกวางจำหน่ายในวันที่ 1 เมษายน หรือ April Fools Day แต่คุณภาพของมันไม่ใช่เรื่องโกหกเลย คุณภาพระดับ high-performance ด้วย Air Sole Unit เต็มแผ่น และอานุภาพของ Flywire Technology ซึ่งเบาและแข็งแรง ทำให้คุณรู้สึกเดินอยู่บนอากาศเลยล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ติดตั้งเทคโนโลยี Nike+ ลงไปอีกด้วย ถือเป็นองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดในปีนี้
#6 – NIKE FOAMPOSITE LITE – NATE ROBINSON KRYPTONATE PE
วงการ รองเท้าบาสเกตบอลจะปั่นป่วนที่สุดในช่วง NBA All Star ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทต่างๆ จะผลิตรองเท้าเจ๋งๆ สีสันแปลกๆ ออกมายั่วน้ำลายพวกเรา และในช่วเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Nike และ Nate Robinson, Guard ตัวเก่งของ New York Knicks ก็ได้ร่วมกันทำรองเท้ารุ่น Foamposite Lite เข้าร่วมการแข่งขัน Slam Dunk โดยใช้สีของ Kryptonite ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ Superman (ฉายาของ Dwight Howard ผู้ชนะการแข่งขัน Slam Dunk ปี 2008) หลังจากนั้นรองเท้าคู่นี้ออกวางตลาดในเดือนมีนาคม คงไม่ต้องพูดกันแล้วล่ะ ว่าราคาและความหายากพุ่งทะยานไประดับไหน
#5 – NIKE AIR FOAMPOSITE – EGGPLANT
ทุกๆ สีของรุ่นนี้มีชื่อเรียกหมด สีของรุ่นนี้แปลว่า “มะเขือยาวสีม่วงเข้ม” แปลเป็นไทยแล้วไม่น่าฟังเลยใช่ไหมล่ะ จุดเด่นของรุ่นนี้ของจากสีม่วงมะเขือยาวแล้ว ยังมีพื้นใสทั้งแผ่นอีกด้วยถือเป็นอีกรุ่นคลาสสิคของรองเท้าบาสเก็ตบอล รองเท้าคู่นี้เป็นแรงบันดาลใจให้เกิด Hyperdunk และ Big Nike High นอกจากนี้ยังมี Blazer Highs และ Skyposites ที่จะออกมาให้พวกเราได้ยลโฉมกันเร็วๆ นี้
#4 – NIKE AIR MAX LEBRON VII
รองเท้า Pro Model รุ่นที่ 7 ของ Lebron “KING” James
หลัง จากที่มี Pro Model ออกมาหลายรุ่น ทั้งที่สวย และไม่สวยในสายตาของใครหลายๆ คน แต่แฟนๆ ของ Lebron ก็ยังมีคาดหวังสูงมากๆ สำหรับ Pro Model ของ Lebron ทุกๆ รุ่นอยู่ดี
Ken Link คือผู้ออกแบบ Lebron Line ตั้งแต่ 1-6 และในรุ่นที่ 7 โปรเจคนี้ถูกส่งต่อให้ Jason Petrie ซึ่งมีมุมมองเกี่ยวกับ Lebron ที่แตกต่างออกไป เราเลยได้เห็นรองเท้าของ Lebron แตกต่างจากที่เห็นอย่างชัดเจน ด้วยดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาให้ผู้เล่นตัวใหญ่ เพิ่มตวามคล่องตัว โดยคงไว้ซึ่ง Zoom Air Unit ด้านในรองเท้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรองเท้า Lebron หลายๆ รุ่น ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือการทำเทคโนโลยี Air Sole Unit 360 องศา มาใส่ไว้ที่พื้นรองเท้านี่ล่ะ ส่วนความเบาของมันก็ต้องยกความดีให้กับ Flywire Technology ถือเป็นรองเท้าอีกรุ่นของ Lebron Line ที่สามาถสวมใส่ได้ทั้งคอร์ทบาสเก็ตบอลและเดินตามท้องถนนได้อย่างลงตัว (ปกติจะเห็นแต่ในคอร์ทบาสเก็ตบอลซะส่วนมาก)
คู่ที่เอามาให้ดูกันก็คือ รุ่นพิเศษอย่าง “RED CARPET EDITION” ซึ่งแตกต่างไปจากรุ่นปกติคือเอา Flywire Technology ออก และใส่ Woven เข้าไปแทนที่
นับได้ว่าเป็นรองเท้าบาสเก็ตบอลที่เจ๋งและสวยที่สุดโดยไม่มี Logo Jumpman บนรองเท้า ตั้งแต่ไนกี้ผลิตออกมา
#3 – AIR JORDAN III – TRUE BLUE
เป็น Air Jordan อีกคู่ที่ทำให้แฟนๆ คลั่ง ถึงกับนับวันรอให้มันออกมาอีกครั้ง หลังจากการ Retro ครั้งแรกในปี 2001 ไนกี้ได้ประกาศว่าจะทำ Retro อีกครั้งในปี 2009 ซึ่งเพียงแค่นี้ก็ทำให้ Jordan Head หลายๆ คนแทบบ้า และยิ่งบ้าไปกว่านั้นก็คือ รองเท้าคู่นี้วางจำหน่ายในหลายๆ ทวีป ยกเว้นสหรัฐฯ ซึ่งทำให้แฟนๆ Air Jordan ในหลายๆ ประเทศได้เฮกันยกใหญ่ เพราะว่าถึงทีของพวกเขาบ้างแล้ว (แน่นอน ประเทศไทยเฮเก้อ … เพราะว่าไม่เข้ามาขาย ผู้แปลก็ไม่รู้ทำไมเช่นกัน) ถือเป็นอีกรุ่นที่ทำให้สาวก Air Jordan นอกสหรัฐฯ ไม่ต้องไปต่อคิว เพราะต้องกัดฟันจ่ายราคา Re-Sell ถ้าอยากได้ (กรรมสนองพวกเขาบ้างแล้ว)
#2 – NIKE AIR YEEZY
รองเท้า คู่ที่สร้างความฮือฮามากที่สุดในปี 2009 นี้จาก Nike ก็ว่าได้ Air Yeezy รองเท้าคู่นี้ได้รับการออกแบบโดย Kanye West สตรีทไอคอนคนดังแห่งวงการเพลงและศิลปะ รองเท้าคู่นี้ถูกนำออกมาสู่สายตาผู้คนครั้งแรกในการคอนเสิร์ตโดยที่ Kanye ใส่สีดำล้วน ทุกคนต่างตกใจและพูดกันไปมากมายสำหรับรองเท้าคู่นี้ ซึ่งการออกแบบทั้งหมดนั้น Kanye ได้รับแรงบันดาลใจรองเท้ามากมายที่ตัวเขาชื่นชอบทั้ง AJ3, Ato Matsumoto, Bape ฯลฯ ด้วยความเป็นอัจฉริยะทางด้านแฟร์ชั่นของเขา รองเท้าคู่นี้คือรองเท้าที่น่าสวมใส่มากๆ ในปี 2009
#1 – AIR JORDAN XI – SPACE JAM
จะมีรองเท้าสักกี่คู่กันที่ออกวางตลาดก็เข้าสู่ทำเนียบแห่งความคลาสสิคได้อย่างทันที
ทันใด และ Air Jordan 11 ก็สามารถเป็นอย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นใน NBA ฤดูกาล 1995 - 96 แต่ในช่วง Playoff Michael Jordan ก็ได้ทำให้แฟนๆ เหลียวหลังกันคอแทบหักอีกครั้งด้วยการใส่ Air Jordan 11 หนังแก้วสีดำล้วน ปักเบอร์ 45 ซึ่งเป็นเบอร์ที่ใช้หลังการกลับเข้าสู่ NBA อีกครั้ง
หลัง จากที่ Michael Jordan ได้เข้าร่วมแสดงภาพยนตร์จอเงิน “Space Jam” รองเท้าที่ Michael ใส่ก็อยู่ในห้วงความคิดและชวนให้แฟนๆ Air Jordan ฉงนอยู่ตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่จะออกวางจำหน่ายเสียที ด้วยสีดำเงามันขลับ ขับสีสะท้อนกับแสงทุกครั้งที่ก้าวเดิน อีกทั้ง midsole สีขาวสะอาดตา ปิดท้ายด้วยพื้นใสระดับสุดยอดอย่าง Icy Sole ทำให้ทุกๆ คนจับจ้องทุกๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นคอร์ทบาสเก็ตบอลหรือบนท้องถนน
และในปี 2000 นั้นเอง Air Jordan 11 “Space Jam” ก็วางขายบนชั้นวางรองเท้าเป็นครั้งแรก แน่นอนว่าแฟนๆ Air Jordan ต่างปลาบปลื้มปิติยินดีอย่างยิ่งที่สิ่งที่พวกเขารอคอยอย่างใจจดใจจ่อกลาย เป็นจริง แต่ก็มีอีกหลายคนที่ต้องพบกับความผิดหวังครั้งใหญ่ เพราะพลาดการเป็นเจ้าของ
โอกาสเป็นของผู้ที่พลาด และผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของเพิ่มเติมอีกครั้งในปี 2009 การตามหาไซส์ของตัวเอง การที่ต้องจ่ายเพิ่มเป็นเท่าตัว การที่ต้องทนใส่ไซส์ที่ไม่ใช่ของตัวเอง การรอคอยยาวนานกว่า 9 ปี จบสิ้นลงแล้ว เมื่อทาง Jordan Brand ได้ประกาศว่าจะ Retro Air Jordan 11 Space Jam อีกครั้ง รูปภาพ ข้อมูล ข่าวสารต่างๆ ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว และแน่นอน หลายๆ คนออมเงินกันไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะเลยทีเดียว
ทาง Jordan Brand ก็ได้ตอบแทนการรอคอยของแฟนๆ อย่างคุ้มค่าโดยการผลิตกล่องพิเศษให้กับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ด้วยกล่องกระดาษลิ้นชักสีดำ ฝาครอบกล่องสีน้ำเงินมีเลข XI และ motto ของรองเท้ารุ่นนี้ว่า
“Tinker made them shine, Mike made them fly, You made it iconic.”
ก็เป็นการจัดอันดับ 30 อันดับสุดยอดรองเท้าของปี 2009 ตามความเห็นของ Sneakernews เองคงถูกใจหลายๆคนไม่น้อย
แน่นอนว่าไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าจำนวนผลิตครั้งนี้กี่คู่ ถ้าคุณได้ไซส์ของตัวเองซักคู่ คุณก็คงไม่อยากรู้แล้วล่ะ
สำหรับบางคนอาจมองว่า …? มันก็แค่รองเท้ากีฬาคู่หนึ่ง จะอะไรกันนักหนา
แต่สำหรับบางคน … รองเท้าคู่นี้เป็นโลกทั้งใบของเค้าเลยก็ว่าได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น